การไดหมึก เกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร
เป็นวิธีการจับปลาหมึกที่สืบทอดต่อกันมาจากการสังเกตุพฤติกรรมของหมึกกับวิทยาการสมัยใหม่นำมาดัดแปลงเครื่องมือเครื่องใช้คล้ายกับธรรมชาติสามารถยึดเป็นอาชีพเพื่อเลี้ยงชีวิตได้โดยใช้เรือขนาดปานกลางใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 3 เมตร มาติดกับคานบนของเรือทำเป็นแขนยื่นออกไปทางด้านข้างของเรือข้าง ละ 3-4 อัน แขนที่ยื่นออกไปทุกอัน ติดหลอดไฟ 5-6 หลอด เมื่อได้เวลาก็นำเรือออกไปจอดห่างจากฝั่งในบริเวณที่หมึกชุม พอถึงเวลาโพล้เพล้ของเปิดไปให้เหลือเพียงอันเดียว เว้นระยะเวลาพอประมาณก็เปิดไฟดวงที่ 2 ทำอย่างนี้่จนครบทุกอัน คะเนว่าปลาหมึกมาเล่นไฟมากพอก็ทยอยปิดไฟทีละดวงจนเหลืออันสุดท้ายก็ปล่อยอวนบริเวณชายอวนหรือที่เรียกกันว่าตีนอวนที่ติดไว้ด้วยตะกั่วครอบฝูงปลาหมึกมาเล่นไฟ เมื่อตะกั่วจมลึกดีแล้วก็ก็รวบเข้าหากัน คล้ายกับลวบปากถุงแล้วจึงใช้ลอกดึงถุงหมึก นำขึ้นมาบนเรือ
หมึกกระดอง
หมึกกระดองเป็นสัตว์ทะเลเป็นสัตว์น้ำที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ที่มีวิวัฒนาการมากสุดในกลุ่มสัตว์ประเภทหอย อาศัยอยู่ในทะเลทั้งหมดซึ่งมีความยาวประมาณ 15-25 เซนติเมตร สามารถว่ายน้ำได้รวดเร็วได้ชื่อว่าเป็นสัตวืที่มีเท้าอยู่บนหัว เราเรียกเท้าที่อยู่บนหัวมันว่า "หนวด" หมึกกระดองมีลำตัวเป็นถุงรูปไข่ มีแผ่นกล้ามเนื่อคลุมลำตัวอยู่เกือบทั้งหมด ก็คือ ครีบ เป็นอวัยวะที่ใช้ในการพยุงตัว ทำให้สามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนของลำตัวเป็นกล้ามเนื้อมีลักษณะเป็นแผ่นหุ้มห่ออวัยวะภายในไว้เมื่อมีกระดองรูปคล้ายใบหอกที่เรียกว่า ลิ้นทะเล เป็นส่วนประกอบของหินปูน ทำหน้าที่เป็นโครงกระดูกค้ำจุนร่างกายให้ทรงรูปร่างอยู่ได้ หัวมีขนาดใหญ่ มีหนวดสั้น 4 คู่ และ หนวดยาว 1 คู่ ปลายของหนวดแต่ละเส้นมีอวัยวะดูดใช้ในการจับอาหาร ปากมีลักษณะเป็นช่องมีเขี้ยว 2 อัน ประกอบกัน คล้ายปากนกแก้วสำหรับคาบอาหาร ปากของหมึกทะเลอยู่บนหัวและวล้อมด้วยหนวด10เส้น ระหว่างหัวและลำตัวมีช่องให้น้ำไหลผ่านเข้าสู่ตัว และน้ำจะไหลออกทางท่อพ่นน้ำ มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อที่ยึดติดอยู่กับส่วนคอ ภายในท่อมีลิ้นปิด - เปิด เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่ปล่อยออกมา ปลายท่อหันเหไปตามทิศทางที่ต้องการได้ นอกจากนี้ท่อพ่นน้ำของหมึกยังเป็นท่อขับถ่ายของเสียซึ่งปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำใช้มนการกำบังตัวให้พ้นจากอันตรายที่จะเกิดจากศัตรู
อุปกรณ์อื่น ๆ
โยเสียบหรือโยก้าน
ชนิดของหมึก
หมึกกล้วย
ลักษณะทั่วรูปร่างยาวเรียว ลำตัวกลม ครีบเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ด้านท้าย ครีบเป็นด้านซ้ายและขวาเชื่อมต่อกันด้านหลังมีหนวดสั้น 4 คู่ และยาว 1 คู่ หนวดสั้นอันที่4 ด้านซ้ายของเพศผู้ ปุ่มดูดที่อยู่บนหนวด เปลี่ยนรูปเป็นขนสั้น ๆ เพื่อใช้ในการผสมพันธุ์นัยน์ตามีขนาดใหญ่ ในปากมีฟันเขี้ยวคล้ายปากนกแก้ว ในลำตัวมีกระดองใสเหมือนแผ่นพลาสติก รูปร่างคล้ายขนนกหนึ่งอัน
ลักษณะทั่วรูปร่างยาวเรียว ลำตัวกลม ครีบเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ด้านท้าย ครีบเป็นด้านซ้ายและขวาเชื่อมต่อกันด้านหลังมีหนวดสั้น 4 คู่ และยาว 1 คู่ หนวดสั้นอันที่4 ด้านซ้ายของเพศผู้ ปุ่มดูดที่อยู่บนหนวด เปลี่ยนรูปเป็นขนสั้น ๆ เพื่อใช้ในการผสมพันธุ์นัยน์ตามีขนาดใหญ่ ในปากมีฟันเขี้ยวคล้ายปากนกแก้ว ในลำตัวมีกระดองใสเหมือนแผ่นพลาสติก รูปร่างคล้ายขนนกหนึ่งอัน
หมึกหอม
หมึกหอมมีลำตัวเป็นทรงกระบอก ความยาวประมาณ 26 เซ็นติเมตร ตัวผู้มีขนาดยาวกว่าตัวเมีย ครีบหรือแพนข้างตัวทั้งสองข้าง มีลักษณะกว้างและแบนยาวเกือบตลอดลำตัว กระดองของหมึกหอมเป็นแผ่นใสเห็นเส้นกลางกระดอง หนวดรอบปากมี 10 เส้น เป็นแขน 8 เส้น มีหนวดคู่ยาว 2 เส้น ที่ลำตัวมีจุดสีน้ำตาลอมแดงกระจายอยู่ทั่วไป นัยน์ตาทีสีเขียว ชอบรวมกลุ่มเป็นฝูง กินสิ่งมีชีวิตและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กเป็นอาหาร ออกหากินในเวลากลางคืทนโดยสามารถกินอาหารได้ถึง30%ของน้ำหนักตัว พบได้ในเขตร้อนของมหาสมุครแฟซิฟิกและมหาสมุครอินเดีย อาศัยอยู่ตั้งแต่ผิวน้ำจนถึงผิวหน้าดิน นิยมบริโภคเป็นอาหารด้วยการปรุงสด เนื่องจากหากินในเวลากลางคืน ชาวประมงจึงจับในเวลากลางคืน โดยใช้แสงไฟนีออนล่อหมึก หมึกหอมสามารถสืบพันธุ์วางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ ระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ พฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคม และปลายเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม สามารถสืบพันธุ์วางไข่ได้เมื่อมีอายุ 3-4 เดือน เมื่อตัวเมียสืบพันธุ์ได้ 1 สัปดาห์ ก็จะไปวางไข่ติดกับวัสดุใต้น้ำ โดยที่เพศผู้ว่ายน้ำอยู่ใกล้ ๆ คอยดูแลไข่ ไข่ของหมึกหอมมีลักษณะคล้ายฝักมะขาม ติดกันเป็นพวง
หมึกหอมมีลำตัวเป็นทรงกระบอก ความยาวประมาณ 26 เซ็นติเมตร ตัวผู้มีขนาดยาวกว่าตัวเมีย ครีบหรือแพนข้างตัวทั้งสองข้าง มีลักษณะกว้างและแบนยาวเกือบตลอดลำตัว กระดองของหมึกหอมเป็นแผ่นใสเห็นเส้นกลางกระดอง หนวดรอบปากมี 10 เส้น เป็นแขน 8 เส้น มีหนวดคู่ยาว 2 เส้น ที่ลำตัวมีจุดสีน้ำตาลอมแดงกระจายอยู่ทั่วไป นัยน์ตาทีสีเขียว ชอบรวมกลุ่มเป็นฝูง กินสิ่งมีชีวิตและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กเป็นอาหาร ออกหากินในเวลากลางคืทนโดยสามารถกินอาหารได้ถึง30%ของน้ำหนักตัว พบได้ในเขตร้อนของมหาสมุครแฟซิฟิกและมหาสมุครอินเดีย อาศัยอยู่ตั้งแต่ผิวน้ำจนถึงผิวหน้าดิน นิยมบริโภคเป็นอาหารด้วยการปรุงสด เนื่องจากหากินในเวลากลางคืน ชาวประมงจึงจับในเวลากลางคืน โดยใช้แสงไฟนีออนล่อหมึก หมึกหอมสามารถสืบพันธุ์วางไข่ได้ตลอดทั้งปี โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ ระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ พฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคม และปลายเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม สามารถสืบพันธุ์วางไข่ได้เมื่อมีอายุ 3-4 เดือน เมื่อตัวเมียสืบพันธุ์ได้ 1 สัปดาห์ ก็จะไปวางไข่ติดกับวัสดุใต้น้ำ โดยที่เพศผู้ว่ายน้ำอยู่ใกล้ ๆ คอยดูแลไข่ ไข่ของหมึกหอมมีลักษณะคล้ายฝักมะขาม ติดกันเป็นพวง
หมึกกระดอง
หมึกกระดองเป็นสัตว์ทะเลเป็นสัตว์น้ำที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ที่มีวิวัฒนาการมากสุดในกลุ่มสัตว์ประเภทหอย อาศัยอยู่ในทะเลทั้งหมดซึ่งมีความยาวประมาณ 15-25 เซนติเมตร สามารถว่ายน้ำได้รวดเร็วได้ชื่อว่าเป็นสัตวืที่มีเท้าอยู่บนหัว เราเรียกเท้าที่อยู่บนหัวมันว่า "หนวด" หมึกกระดองมีลำตัวเป็นถุงรูปไข่ มีแผ่นกล้ามเนื่อคลุมลำตัวอยู่เกือบทั้งหมด ก็คือ ครีบ เป็นอวัยวะที่ใช้ในการพยุงตัว ทำให้สามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนของลำตัวเป็นกล้ามเนื้อมีลักษณะเป็นแผ่นหุ้มห่ออวัยวะภายในไว้เมื่อมีกระดองรูปคล้ายใบหอกที่เรียกว่า ลิ้นทะเล เป็นส่วนประกอบของหินปูน ทำหน้าที่เป็นโครงกระดูกค้ำจุนร่างกายให้ทรงรูปร่างอยู่ได้ หัวมีขนาดใหญ่ มีหนวดสั้น 4 คู่ และ หนวดยาว 1 คู่ ปลายของหนวดแต่ละเส้นมีอวัยวะดูดใช้ในการจับอาหาร ปากมีลักษณะเป็นช่องมีเขี้ยว 2 อัน ประกอบกัน คล้ายปากนกแก้วสำหรับคาบอาหาร ปากของหมึกทะเลอยู่บนหัวและวล้อมด้วยหนวด10เส้น ระหว่างหัวและลำตัวมีช่องให้น้ำไหลผ่านเข้าสู่ตัว และน้ำจะไหลออกทางท่อพ่นน้ำ มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อที่ยึดติดอยู่กับส่วนคอ ภายในท่อมีลิ้นปิด - เปิด เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่ปล่อยออกมา ปลายท่อหันเหไปตามทิศทางที่ต้องการได้ นอกจากนี้ท่อพ่นน้ำของหมึกยังเป็นท่อขับถ่ายของเสียซึ่งปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำใช้มนการกำบังตัวให้พ้นจากอันตรายที่จะเกิดจากศัตรู
อุปกรณ์ไดหมึก
อุปกรณ์ไดหมึก อุปกรณ์ที่ใช้ในการตกหมึก เรียกว่า "โยธะกา" มีลักษณะเป็นเบ็ตที่มีตะขอรอบด้านเป็นซี่ ผูกติดกับสายเอ็น มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
และอุปกรณ์ที่สำคัญในการตดหมึกเวลาค่ำ ๆ ก็ หลอดไฟ จากหลอดไฟนีออนหลาย ๆ ดวงที่ติดกับเสา(แขน) เรือที่กางออกด้านข้าง เพื่อเปิดส่องแสงล่อพวกปลาหมึกให้มารวมตัวกัน แสงไฟจะช่วยล่อเหล่าบรรดาปลาเล็ก ปลาน้อยให้เข้ามาว่ายอยู่บริเวณใกล้ ๆ หรือพูดง่าย ๆ ก็ คือ ให้ปลามาเล่นไฟ หลังจากนั้นพวกปลาหมึกก็จะมาลุมกินปลาเล้กปลาน้อยเหล่านั้น ปลาหมึกจะมาเล่นไฟเป็นคู่บ้าง เป็นฝูงบ้าง เมื่อฝูงหมึกมาเล่นไฟนับร้อยตัว ก้ใช้อวนดึงเข้ามา ไม่ก็เอาเย็ตตกได้ตกเอาเลย

สายสำหรับตกหมึกเป็นสายเอ็นในรูป เป็นสายพีอี 0.5 สำหรับตกหมึก
เหยื่อหมึกประเภทต่างๆ
ตัวนี้โยซูริแท้ ตัวละ 400
โยเรืองแสงของโยซูริ
วิธีผูกเหยื่อแบบข้างล่างตกหมึกกล้วยข้างบนตกหมึกหอม
โยเสียบหรือโยก้าน
วิธีไดหมึก
วิธีไดหมึก เมื่อเรือพร้อม ไฟพร้อม โยธะกาพร้อม ก็เหลือแค่เทคนิคและวิธีการตกหมึกของแต่ละคน ซึ่งต้องหย่อนโยธะกาลงไปในน้ำ ซึ่งลึกประมาณ 1 เมตร จากนั้นที่เหลือก็ใช้เพียงความอดทนกับความพยายาม ในการชักเอ็นขึ้นลงไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด เพื่อให้ปลาหมึกคิดว่าโยธะกาเป็นปลาน้อยเล่นไฟ เมื่อปลาหมึกติดโยธะกาก็ดึงขึ้นมาเลย จัดทำโดย
นางสาวถวิกา แก้วบรรดาล รหัส 54670056
นางสาวนันทวัน งามขำ รหัส 54670069
นางสาวกัญญาพัชร ทาหอม รหัส 54670139
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น